เลเวลก็ 50 แล้ว ฉากจบก็ดูแล้ว เหลืออะไรให้ทำอีก?
คำว่าจบนั้นหมายถึงจบเนื้อเรื่องของแพทช์ 2.0 เท่านั้นครับ มันยังจบไม่จริง :) ณ จุดนี้ ขอต้อนรับคุณสู่สิ่งที่ใครๆ ก็เรียกกันว่า end-game content ซึ่งผมจะถือว่า หลังจากส่งเควส The Ultimate Weapon เรียบร้อยแล้ว ก็เป็นการเข้าสู่ end game อย่างเต็มตัว
end-game แล้วบางคนอาจจะรู้สึกงงว่า จะทำอะไรต่อดี ทำไมเควสเนื้อเรื่องมันให้ทำอะไรที่ยากขึ้น ทำไมตัวละครเราสู้ไม่ไหวทั้งๆที่เลเวลก็ตันแล้ว จริงๆเป้าหมายหลักๆของ end-game ก็คือการอัพเลเวลเกียร์หรือ Item level (iLevel) ให้มากขึ้น เพื่อภารกิจขั้นสูงๆ ที่รออยู่นั่นเอง
ย่อหน้านี้ข้ามไปก็ได้ครับ เม้ามอยเฉยๆ อยากจะพูดถึงสมัยที่ผมเล่นถึง end game ใหม่ๆ ตอนนั้นเซ็ทอุปกรณ์ที่ดีที่สุดได้มาจาก Binding Coil of Bahamut หรือชุด Artifact 1.5 เท่านั้น และอาวุธสุดยอดในขณะนั้นคืออาวุธ Zenith ส่วนของชั้นรองลงมาก็เป็นเซ็ท Darklight ที่ได้มาจากการเอา Tomestone of Philosophy ไปแลก(ตอนนี้ไม่มีแล้ว) ดันเจี้ยนสำหรับเก็บแต้มก็มีไม่กี่ที่ อัพเกียร์ค่อนข้างลำบาก ดันเจี้ยน end-game อันแรกที่ได้สัมผัสคือ Amdapor Keep ซึ่งนับว่าโหดมากในขณะนั้น โดยเฉพาะบอส Demon Wall ที่เป็นตัว DPS check อย่างแรง(ตอนนี้นอกจากจะเกียร์แรงกันแล้ว ตัวบอสยังโดนปรับให้ง่ายลงด้วยการไม่มีลูกสมุนอีกตะหาก) บางคนเห็นสมาชิกปาร์ตี้มีเกียร์ไม่ถึง Darklight นี่ถึงกับกดออกจาก duty เลยก็มีเพราะยังไงก็เอาบอสตัวนี้ไม่ลง ไม่ต้องพูดถึง Titan Hard Mode ที่ยากแสนสาหัสจริงๆ ใคร HP ไม่ถึง 3,500 นี่อย่าไปลงเลย เป็นภาระเปล่าๆ เพราะไม่ผ่านเฟสไททันกระทืบพื้นรัวๆแน่ๆ ดังนั้น Item Level จึงเป็นสิ่งสำคัญมากหลังจาก end game ไปแล้ว
กลับเข้าเรื่อง มาดูรายการของที่น่าทำหลัง end game กันดีกว่า
- เคลียร์เนื้อเรื่องหลังแพทช์ 2.0
- อัพเกรดชุดและอาวุธ
- ลุยบอส Primal Hard และ Extreme Mode
- ลุยดันเจี้ยนเลเวลสูง
- ลุย Raid ขั้นสูง
- เข้าร่วม PvP
- ทำอาวุธในตำนาน (Zodiac Weapon)
- The Hunt
- ทำเควสเนื้อเรื่องรอง
คำแนะนำเพิ่มเติม
ควรจะอ่านก่อนไปลุย end-game content นะครับ แต่ถ้าใครรู้แล้วก็ผ่านไปได้เลยการหา Static party
จริงอยู่ที่ถึงแม้ว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ของเกม สามารถผ่านได้ด้วยตัวคนเดียวโดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แต่ยังไงซะ เกมนี้ก็เป็นเกมออนไลน์ครับ การมีเพื่อนเล่นที่รู้ใจจะทำให้เกมสนุกขึ้นอีกมากโข- หากเป็นไปได้ ให้หาเพื่อนมาตั้งทีม ให้ครบ 8 คนจะดีมาก โดย 8 คนนี้จะเป็นปาร์ตี้ถาวร หรือที่บางคนเรียกว่า Static Party หรือ Raid เพื่อช่วยกันผ่านภารกิจที่โหดหินเช่น Coil of Bahamut ซึ่งต้องอาศัยการฝึกฝนด้วยกันอย่างมากในชั้นสูงๆ
- ลองมองหา Linkshell หรือ Free Company อยู่ ถ้าเจอเพื่ิอนที่นิสัยใจคอถูกใจก็ชวนกันมาทำ Static Party ได้ แต่ถ้าเราไม่เก่งภาษาจะเป็นปัญหามาก หากไม่ได้อยู่ในสังคมของคนไทย
- ใช้วิธีเปิด Party Finder ในเกม มองหาปาร์ตี้ที่รับคนเข้าไปเป็น Static Party ด้วยกัน เช็คดูว่าวัตถุประสงค์ของเขาคืออะไร ต้องการอาชีพแบบไหน เกียร์เท่าไหร่ ถ้าเราเข้าสเปคของเขาก็ส่ง /tell ไปคุยกันได้
- มองหาสังคมคนไทยในเซิฟเวอร์ที่เราอยู่ ซึ่งจะมีบางกลุ่มที่เปิดรับสมาชิกใหม่อยู่เรื่อยๆ กลุ่มผู้เล่นเหล่านี้มักจะมีการสื่อสารกันด้วยเสียงพูด เช่น Skype, Google Talk หรือ TeamSpeak กันอยู่แล้ว บางกลุ่มอาจอยู่รวมกันเป็น Linkshell หรือ Free Company และมีการตั้งกรุ๊ปในเฟสบุค ลองติดต่อเข้าไปดูได้ครับ
- ดูตามเว็บบอร์ด หรือตามแฟนเพจ FF XIV ของคนไทย ที่อาจจะมีโพสประกาศรับสมาชิก Raid ไว้ อ่านรายละเอียดตามประกาศให้ดี ถ้าเราตรงเงื่อนไขก็ลองติดต่อไปยังเจ้าของโพสดูครับ
ลำดับสิ่งที่ควรทำก่อนหลัง
ผู้เล่นแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน แต่ถ้าไม่รู้จะทำอะไรก่อน-หลังดี และยังไม่อยากไปเล่นสายคราฟท์สายขุด คำแนะนำของผมคือ- เคลียร์เนื้อเรื่องหลัก เพราะจะเป็นประตูไปสู่เนื้อหาส่วนอื่นๆ ถ้าทำเควสไปเรื่อยๆแล้วรู้สึกว่ายากเกินไป สู้ไม่ผ่าน ให้สลับไปอัพเกรดชุดและอาวุธก่อนแล้วค่อยกลับมาวิ่งเควสต่อ
- อัพเกรดชุดและอาวุธ เพราะตอนนี้ความเก่งของเราไปลงกับเลเวลของไอเทมที่สวมใส่หมดแล้ว (Average Gear Level, Item Level หรือ iLevel) พอ iLevel เราสูงขึ้น อะไรๆก็จะง่ายขึ้นมาก
- ทยอยเปิดดันเจี้ยนเลเวลสูง และบรรดา Trial Hard/Extreme ต่างๆ เพื่อปลดล๊อค Duty Roulette ซึ่งจะกลายมาเป็นแหล่งเก็บแต้มเพื่อแลกอาวุธและชุดให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
- เมื่อ iLevel สูงพออาจจะไปลุย Raid ชั้นสูง ความยากมหาโหด นั่นก็คือ Coil of Bahamut ซึ่งแบ่งเป็น First Coil (Turn 1-5) ที่สามารถลงผ่าน Duty finder ได้ด้วยตัวคนเดียว, Second Coil (Turn 6-9) และ Final Coil (Turn 10-13) นั้นต้องสร้าง Full party ก่อนลง การลง CoB นี้ต้องอาศัยความชำนาญของทีมมาก ทุกคนต้องจดจ่ออยู่กับหน้าที่ของตัวเองตลอดเวลา เพราะถ้าพลาดเพียง 1 คนคือหายนะของปาร์ตี้ CoB จึงเป็นแหล่งสะสมความเครียด(น่าจะ)ที่สุดในเกม แต่ถ้าภารกิจสำเร็จก็ย่อมมีความภูมิใจมาก ได้ชื่อว่าเป็นผู้พิชิต content ที่ยากที่สุดของเกมแล้ว และยังได้ของตอบแทนเป็นชุดหรืออาวุธที่ดีที่สุดในเกมอีกด้วย
- ถ้า CoB ไม่ใช่แนวของคุณ ก็หันมาทำอาวุธ Zodiac Weapon ครับ (เท่าที่สังเกต ส่วนใหญ่คนที่ชอบลง Raid จะไม่ค่อยชอบทำ Zodiac Weapon เพราะมันซ้ำซาก เสียเวลา และไม่ค่อยเร้าใจ ส่วนคนที่ชอบทำ Zodiac Weapon ก็จะไม่ค่อยชอบลง Raid เพราะมันเครียด 55+) Zodiac Weapon เป็นอาวุธประจำตัว/ประจำสายอาชีพ ที่มีพัฒนาการขึ้นมาเรื่อยๆ ตามเนื้อหาเกม ให้ค่า stat เป็นรองแค่อาวุธจาก CoB แต่เวลาทำไม่ต้องหน้าดำคร่ำเครียด อาศัยความขยันและเวลาพอสมควร
- ถ้าไม่ชอบทั้ง CoB และ Zodiac Weapon ไปลง trial extreme หรือจะสะสมแต้ม Tomestones แลกชุดและอาวุธที่ Mor Dhona แทนก็ได้ ก็พอไปวัดไปวาอยู่นะ
เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการใช้ User interface
FOCUS TARGETใน duty เลเวลสูงๆ มอนสเตอร์หรือบอสหลายตัวจะมีสกิลเฉพาะ ที่อาจจะส่งผลร้ายแรงต่อปาร์ตี้ถึงขั้นทำให้ตายหมด(ฝรั่งเรียกว่า wipe คนไทยชอบอ่านว่า วิป จริงๆแล้วอ่านว่า ไวป์ ครับ) โดยทั่วไปสกิลเหล่านี้จะใช้เวลาออกท่าอยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งในระหว่างที่สกิลถูกร่ายอยู่นั้น จะเป็นจังหวะที่เราจะหลีกเลี่ยงได้ โดยการต้องหลบ สตั้น หรือวิ่งไปยังจุดที่กำหนด เป็นต้น ซึ่งถ้าเราเล่นคนเดียวจะไม่มีใครคอยบอก เราต้องรู้ด้วยตัวเองเท่านั้น
การสังเกตว่าเป้าหมายกำลังร่ายสกิลอะไรอยู่ มีวิธีที่สะดวกๆ อยู่ 2 วิธีด้วยกัน
1. สังเกตที่ Target bar
Target bar หรือหลอด HP ของเป้าหมาย โดยปกติจะอยู่ด้านบนของจอ ถ้าเราสังเกตดูดีๆจะเห็นว่าบางจังหวะจะมีชื่อสกิลพร้อมกับหลอดร่ายสกิลของเป้าหมายโผล่ออกมา เล็งให้ดีว่าใช่สกิลที่เราต้องมีแอคชั่นอะไรพิเศษหรือไม่
Target bar เป้าหมาย Ninki Nanka กำลังร่ายสกิล Hatch ซึ่งต้องสตั้นก่อนร่ายสกิลเสร็จเพื่อไม่ให้มันเรียกลูกออกมา |
2. Focus target
วิธีนี้เป็นวิธีที่ผมแนะนำครับ โดยจะจับเอาข้อมูลโดยสรุปของเป้าหมายขึ้นมาไว้ในหน้าต่าง Focus target ทำได้โดยเลือกเป้าหมายแล้วกด Shift + F ที่คีย์บอร์ด หรือเรียกเมนูที่ตัวเป้าหมายแล้วเลือก Focus Target ข้อดีของการทำแบบนี้คือ ไม่ว่าเราจะเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ไหน หน้าต่าง Focus target ก็จะยังคงแสดงข้อมูลของเป้าหมายเดิมที่เราเลือกไว้อยู่ตลอดเวลา หากเป้าหมายหายไปจากหน้าจอ เมื่อมันกลับมาหน้าต่างก็จะแสดงขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติอีกด้วย ควรจะ Focus target ที่บอสตัวสำคัญๆ ก่อนเริ่มสู้ให้เป็นนิสัยไว้ครับ
หน้าต่าง Focus target แสดงเป้าหมาย Ninki Nanka กำลังร่ายสกิล Hatch |
PARTY FINDER
ในบางภารกิจ จำเป็นจะต้องตั้งปาร์ตี้ตามที่กำหนดก่อน(เรียกว่า pre-made party) จึงจะเข้าผ่าน Duty finder ได้ หากเราไม่มี static party ในขณะนั้น ก็ยังมือเครื่องมือช่วยหาคนมาร่วมปาร์ตี้อยู่ เรียกว่า Party Finder ซึ่งเราสามารถเป็นคนตั้งเงื่อนไข หรือเข้าไปร่วม Party finder ที่มีคนตั้งไว้แล้วก็ได้
เมื่อเปิด Party Finder ขึ้นมา เราจะเห็นปาร์ตี้ที่กำลังรับคนอยู่ โดยจะมีคำอธิบายไว้ด้านล่าง หากเราจะตั้ง Party Finder เอง ให้กดปุ่ม Recruit Member |
ถ้าเจอปาร์ตี้ที่สนใจ ก็คลิกเข้าไปดู และกด Join Party ได้เลย หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมก็ Send/Tell ไปตามเจ้าของปาร์ตี้ได้ครับ |
บาง Party Finder อาจตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ นอกเหนือจากการลง duty ทั่วๆไปก็ได้ เช่น เพื่อการค้าขาย, เพื่อทำ Spirit bond, เพื่อหาสมาชิกปาร์ตี้ถาวร ฯลฯ สุดแล้วแต่จะคิดได้
AUTO TRANSLATE
เนื่องจากผู้เล่นเกมนี้ มีหลากหลายภาษา ตัวเกมได้เพิ่มฟังค์ชั่นสำหรับแปลคำศัพท์ที่ใช้บ่อยๆ เรียกว่า Auto translate เมื่อใช้ฟังค์ชั่นนี้ ผู้เล่นภาษาอื่นจะเห็นคำๆนั้นเป็นภาษาของตัวเองทันที เราสามารถเลือกคำที่ต้องการทำ Auto translate ได้โดยการกด tab ขณะพิมพ์ข้อความในช่องแชท จากนั้นก็เลือกคำที่ต้องการในเมนูที่โผล่ขึ้นมา คำที่เป็น Auto translate จะมีเวงเล็บสีเขียว-แดง ครอบไว้
เคลียร์เนื้อเรื่องหลังแพทช์ 2.0
ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นสายเสพเนื้อเรื่องหรือไม่ สิ่งจำเป็นในการเดินหน้าสู่เนื้อหาส่วนอื่นๆในเกมก็คือเนื้อเรื่องหลัก ซึ่งจะถูกเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ ในแต่ละแพทช์ในแพทช์ 2.0 เนื้อเรื่องหลักจะจบลงที่เควส The Ultimate Weapon และจะเริ่มแพทช์ 2.1 ที่เควส The Price of Principles จากนั้นก็วิ่งเควสไปเรื่อยๆ จะไปจบที่เควสสุดท้ายของแพทช์ 2.4 เอง ส่วนคนที่หยุดเล่นไปตั้งแต่แพทช์ไหนก็ตั้งต้นตามแพทช์ที่ยังค้างอยู่ แต่ถ้านึกอะไรไม่ออกก็ไปหา Minfilia ที่ The Rising Stones ก่อนเลย เธอพร้อมจะโยนภาระให้เราตลอดเวลา -*-
แพทช์ | ชื่อเควสเริ่มต้น / สิ่งที่เพิ่มมาในเนื้อเรื่อง | ตำแหน่ง | NPC |
---|---|---|---|
2.1 |
The Price of Principles - ปลดล๊อคไพรมอล Good King Moogle Mog XII | Western Thanalan / Vesper Bay / The Waking Sands (X:6 Y:6) | Minfilia |
2.2 |
Still Waters - ปลดล๊อคไพรมอล Leviathan | Mor Dhona / The Rising Stones (X:6 Y:5) | Minfilia |
2.3 |
The Great Divide - ปลดล๊อคไพรมอล Ramuh | Mor Dhona / The Rising Stones (X:6 Y:5) | Minfilia |
2.4 |
Traitor in the Midst - เปิดดันเจี้ยน Snowcloak - ปลดล๊อคไพรมอล Shiva | Mor Dhona / The Rising Stones (X:6 Y:5) | Minfilia |
มาถึงขั้นนี้แล้วคงไม่ต้องบอกว่ามีวิธีวิ่งเควสยังไงนะครับ เมื่อรับเควสมาแล้วก็วิ่งไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จบเองครับ
การอัพเกรดชุดและอาวุธ
หลังเลเวล 50 ไปแล้ว การอัพเกรดอุปกรณ์สวมใส่เป็นทางเดียวที่ตัวละครจะเก่งขึ้นได้ ทางที่ดีควรจะเริ่มอัพเกรดทันทีที่ตัวละครถึงเลเวล 50 เพราะชุดและอาวุธที่ดีกว่าจะทำให้ภารกิจต่างๆง่ายขึ้นมากถึงตอนนี้ ขอแนะนำสิ่งที่เรียกว่า Allagan Tomestones ซึ่งจะเป็นไอเทมที่เทรดให้ผู้เล่นคนอื่นไม่ได้ เป็นเหมือนระบบเงินที่ใช้สำหรับแลกอาวุธและชุดดีๆจาก NPC Auriana ที่ Mor Dhona ซึ่งในแพทช์ 2.4 นี้ Tomestone ที่ใช้ได้มีอยู่ 3 แบบด้วยกัน
- Allagan Tomestone of Mythology ไม่มีตอบแทนแล้วในแพทช์ 2.4 เป็นแต้มที่หลงเหลือมาจากแพทช์ก่อน ให้แลกเป็น Soldiery เท่านั้น
- Allagan Tomestone of Soldiery ใช้แลกเซ็ทไอเทมเลเวล 100 (Weathered) หนังสือสำหรับทำอาวุธ Animus และม้วนคาถาและแผนที่ขุดแร่ Alexandrite สำหรับอาวุธ Novus แต้มนี้ไม่จำกัดจำนวนที่จะหาได้ต่อสัปดาห์ แต่จำกัดจำนวนสูงสุดที่เก็บไว้กับตัวไว้ที่ 2,000 แต้ม
- Allagan Tomestone of Poetics เป็น Tomestone แบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในแพทช์ 2.4 ใช้แลกเซ็ทไอเท็มเลเวล 120 (Ironwork) แต้มนี้จำกัดจำนวนที่สามารถเก็บไว้กับตัวสูงสุดที่ 2,000 แต้ม/ตัวละคร และหามาได้สูงสุดไม่เกิน 450 แต้ม/สัปดาห์ รีเซททุกบ่ายสามโมงวันอังคาร(เวลาไทย)
แม่หญิง Auriana ณ Mor Dhona, Revenant's Toll (X:22 Y:6) ผู้มีสินค้าชั้นดีสำหรับนักผจญภัย |
ในการสะสมแต้ม(หรือบางคนเรียกว่าฟาร์มแต้ม) Tomestone เพื่อแลกของแต่ละชิ้นนั้น ใช้เวลาพอสมควร อาจจะต้องไอเทมจากดันเจี้ยน, trial และ raid ต่างๆ มาสวมใส่เพื่อขัดตาทัพไปพลางๆ ระหว่างรอแต้มครบ หลายๆดันเจี้ยนต้องทำเควสเปิดใหม่เนื่องจากไม่ได้อยู่ในเนื้อเรื่องหลัก
- The Wanderer's Palace - ชุด/อาวุธ Lv.55
- Amdapor Keep - ชุด/อาวุธ Lv.55
- Haukke Manor (Hard) - ชุด/ประดับ Lv.60
- Copperbell Mine (hard) - ชุด/อาวุธ/ประดับ Lv.60
- Pharos Sirius - ชุด/ประดับ Lv.60
- Brayflox's Longstop (Hard) - ชุด/ประดับ Lv.70
- Halatali (Hard) - ชุด/ประดับ Lv.70
- The Lost City of Amdapor - ชุด/ประดับ Lv.70
- Hullbreaker Isle - ชุด/ประดับ Lv.80
- The Stone Vigil (Hard) - ชุด/ประดับ Lv.80
- The Tam-Tara Deepcroft (Hard) - ชุด/ประดับ Lv.80
- Labyrinth of the Ancients - ชุด Lv.80
- The Binding Coil of Bahamut - ชุด Lv.90
- Syrcus Tower - ชุด Lv.100 & ไอเทมอัพเกรดชุดแต้ม Tomestone เป็น 110
แนวทางสำหรับการอัพเกรดชุดและอาวุธ
จบเควส The Ultimate Weapon แล้ว--> ไปฟาร์ม Primal Hard หาอาวุธ ดูวิธีปลดล็อค
--> ทำเควสอาวุธเรลิค - Zenith **ง่ายมาก แนะนำ**
และ/หรือ
--> Binding Coil of Bahamut อัพเกรดชุดเป็น iLv.90
--> Labyrinth of the Ancients (ได้ชุด iLv.80) / Syrcus Tower (ได้ชุด iLv.100) + สะสมแต้ม Tomestone of Soldiery แล้วไปแลกชุด Weathered Lv.100 --> อัพเกรดด้วย Sand of Time จาก Syrcus Tower เป็น iLV.110 **แนะนำเส้นทางนี้ก่อน เพราะไว ง่าย มีโอกาส loot ได้ของเยอะ ไม่ต้องอาศัย Static party แถมยังได้เงินต่อรอบเยอะอีกด้วย เมื่อเกียร์ดีขึ้นแล้วค่อยขยับไป CoB ต่อไป
--> ทำเควสอาวุธ Zodiac (ต้องทำเรลิคมาก่อน)
--> ทำ The Hunt, ลง Duty Roulette ทุกวัน, ฟาร์มแต้ม Tomestone of Poetics ให้ถึง 450 แต้ม/สัปดาห์ ไปแลกชุด/เครื่องประดับ Ironwork iLv.120 กลุ่มดันเจี้ยน expert ได้แก่ Snowcloak, Sastasha (Hard), Sunken Temple of Qarn (Hard) ได้แต้มต่อครั้งเยอะที่สุด (40 แต้ม) และในดันเจี้ยนยังมีไอเทมไปแลกชุด Artifact 1.5 ได้อีกด้วย
และ/หรือ
--> ฟาร์มไพรมอล Extreme เพื่อเอาเครื่องประดับ/อาวุธ Lv.90-110
และ/หรือ
--> อัพเกรด iLevel ให้ได้ 90+ หา Static party ลงฟาร์ม Second Coil / The Final Coil of Bahamut ยากหน่อยนะอันนี้ และผมก็ยังไม่เคยลงเลย 55+
การลุยดันเจี้ยนเลเวลสูง
ดันเจี้ยนเลเวลสูงหมายถึงดันเจี้ยนเลเวล 50+ เป็นแหล่งฟาร์มแต้ม Allagan Tomestone และยังเป็นแหล่งหาเงินสำหรับผู้ที่ไม่สันทัดการตลาดมากนัก นอกจากนี้ดันเจี้ยนยังเป็นแหล่งฟาร์มอุปกรณ์สวมใส่อีกด้วย การลงดันเจี้ยนที่คุ้มค่าที่สุด ควรลงผ่าน Duty Roulette วันละ 1 รอบ ต่อ 1 อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Duty Roulette Expert, Duty Roulette High Level และ Duty Roulette Trial ซึ่งมีค่าตอบแทนดีมาก และจะได้โบนัสมากขึ้นเมื่อใช้อาชีพที่กำลังขาดแคลนเข้า duty ในขณะนั้นการปลดล๊อค Duty Roulette ชั้นสูง
ชื่อ | Duty Roulette: Expert | Level / iLevel | 50 / 80 |
วิธีปลดล๊อค | ผ่านดันเจี้ยน Snowcloak, Sastasha (Hard) และ Sunken Temple of Qarn (Hard) | ของตอบแทน | Soldiery 0 Poeitics 35 |
รายละเอียด :
สมาชิกปาร์ตี้ตาม Duty finder : 1 1 2
|
ชื่อ | Duty Roulette: High Level | Level / iLevel | 50 / 70 |
วิธีปลดล๊อค | ผ่านดันเจี้ยน Amdapor Keep, Copperbell Mines (Hard), Haukke Manor (Hard), Pharos Sirius, The Wanderer's Palace, Halatali (Hard), Brayflox's Longstop (Hard), The Lost City of Amdapor, Hullbreaker Isle, Tam-Tara Deepcroft (Hard), Stone Vigil (Hard) | ของตอบแทน | Soldiery 50 Poeitics 15 |
รายละเอียด :
สมาชิกปาร์ตี้ตาม Duty finder : 1 1 2
|
ชื่อ | Duty Roulette: Trials | Level / iLevel | 50 / 70 |
วิธีปลดล๊อค | ผ่าน Trials: Cape Westwind, A Relic Reborn: The Chimera, A Relic Reborn: The Hydra, Battle of the Big Bridge, The Dragon's Neck, The Bowl of Embers (Hard), The Howling Eye (Hard), The Navel (Hard), Thornmarch (Hard), The Whorleater (Hard), The Striking Tree (Hard), Akh Afah Amphitheatre (Hard) | ของตอบแทน | Soldiery 40 Poeitics 10 |
รายละเอียด :
สมาชิกปาร์ตี้ตาม Duty finder : 1 1 2
|
การลุยบอสไพรมอล Hard และ Extreme Mode
ลุง! มาสู้กันสักตั้ง แล้วเอาของดีๆมาให้ผม! |
- หลังจบเควส The Ultimate Weapon แล้ว ไปรับเควส A Recurring Problem ที่ Minfilia (Western Thanalan -The Waking Sands -The Solar (6-6)) แล้ววิ่งส่งเควสไปเรื่อยๆ จากนั้นก็จะได้เข้าไปสู้ Ifrit Hard - Garuda Hard - Titan Hard ตามลำดับ ค่อนข้างจะง่ายและโอกาสผ่านสูง เพราะมักจะมีผู้เล่นเก่าๆ ที่เล่นจนคล่องและของแรงๆมาช่วย
- หลังจากฆ่าบอสได้ พยายามกด Loot เอาอาวุธมาใช้ให้ได้ล่ะครับ
- Ifrit Hard, Garuda Hard และ Titan Hard เป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการทำอาวุธ Relic ด้วย
- ถ้าอยากลอง Extreme ก็พยายามอัพเกียร์เลเวลให้ได้เฉลี่ย 65 เพื่อไปต่อ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า extreme ทุกตัวนี้ ความยากคนละเรื่องกับ Hard mode เลยครับ 555+
Raid
Raid เป็น duty แบบหนึ่ง คล้ายๆดันเจี้ยนแต่จะเน้นที่การสู้บอสมากกว่า ต้องอาศัยเทคนิคกลยุทธ์ในการเอาชนะเยอะกว่า ส่วน Raid ขั้นสูงที่ผมกล่าวถึงนี้คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก Coil of Bahamut (CoB) มหาโหดนั่นเองCoB แบ่งเป็น 3 coils ด้วยกันดังนี้
- The Binding Coil of Bahamut หรือ first coil มีทั้งหมด 5 turns สามารถเข้าผ่าน Duty Finder ได้โดยตรง พร้อมทั้งมีบัฟ Echo เพิ่มสถานะให้ตัวละคร เมื่อรวมๆกับเกียร์ที่ดีขึ้นแล้ว(บางคนชอบเรียกว่า โอเวอร์เกียร์) ทำให้ coil นี้ง่ายลงมามาก
- The Second Coil of Bahamut มีทั้งหมด 4 turns สามารถเข้าผ่าน Duty Finder ได้โดยตรง โดยต้องผ่าน Turn 5 ของ first coil ก่อนจึงจะสามารถปลดล๊อค second coil ได้
- The Final Coil of Bahamut มีทั้งหมด 4 turns ต้องเข้าผ่าน Pre-made party เท่านั้น ต้องผ่าน Turn 4 ของ second coil ก่อนเพื่อปลดล๊อค
Raid ที่ไม่ยากก็มีอยู่นะครับ เป็นแหล่งฟาร์มไอเทมและแต้ม Tomestone สำหรับเหล่านักผจญภัยที่ไม่ฮาร์ดคอร์แบบเราๆ ได้ดีเสียด้วย นั่นคือ Labyrinth of Ancient และ Syrcus Tower Raid 24 ตัวละครซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเควสซีรี่ส์ Crystal Tower นั่นเอง
ชื่อ Raid | Labyrinth of Ancients | Level / iLevel | 50 / 50 |
วิธีปลดล๊อค | Labyrinth of the Ancients G'raha Tia, Mor Dhona -North Silvertear -Saint Coinach's Find (30-12) |
ของตอบแทน | Soldiery 100 Poeitics 10 - ชุด Lv.80 |
รายละเอียด :
สมาชิกปาร์ตี้ตาม Duty finder : 6 6 12
|
ชื่อ Raid | Syrcus Tower | Level / iLevel | 50 / 50 |
วิธีปลดล๊อค | Syrcus Tower Rammbroes, Mor Dhona -North Silvertear -Saint Coinach's Find (30-12) |
ของตอบแทน | Soldiery 50 Poeitics 15 - ชุด Lv.100 - Sand of Time - Oil of Time - Unidentified Allagan Tomestone |
รายละเอียด :
สมาชิกปาร์ตี้ตาม Duty finder : 3 6 15
|
PvP
การต่อสู้แบบ Player versus player ในเกมนี้ถือได้ว่าสนุกพอสมควร แต่เนื่องจากเกมไม่ได้ออกแบบมาให้เป็นเกม free PvP ดังนั้นเราจะ PvP กันได้เฉพาะในบริเวณที่กำหนดเท่านั้น โดยการ PvP จะต้องเข้าผ่าน Duty Finder ทั้งหมด เมื่อจบ PvP แต่ละรอบ จะได้ค่าตอบแทนเป็น PvP EXP, Wolf Marks สำหรับซื้ออุปกรณ์ PvP และแต้ม Tomestones จำนวนหนึ่งในการเข้าร่วม PvP เราจะได้สกิลสำหรับใช้เฉพาะตอน PvP ของแต่ละอาชีพเพิ่มเข้ามาด้วย สกิลเหล่านี้สามารถอัพเกรดขึ้นไปได้เรื่อยๆ ตามเลเวล PvP ที่เพิ่มขึ้นของตัวละคร ยิ่ง PvP บ่อยก็ยิ่งเก่งนั่นเอง
ประเภทของ PvP
- The Wolves' Den เป็นการ PvP ระหว่าง party 4 vs 4 โดยไม่ได้จำกัดรูปแบบอาชีพที่มารวมกันเป็นปาร์ตี้ ทีมที่ตายหมดก่อนจะเป็นทีมแพ้
- Frontines เป็นการ PvP ขนาดใหญ่ระหว่าง 3 สมาพันธ์(Alliance) สมาพันธ์ละ 3 ปาร์ตี้ รวมเป็นทั้งหมด 72 คน โดยตัวละครที่สังกัด GC เดียวกันจะถูกนำมาเข้ารวมเป็นสมาพันธ์เดียวกัน มีจุดมุ่งหมายคือการยึดครองพื้นที่ของอีก 2 สมาพันธ์ตรงข้าม และทำลายโดรนที่เกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ ทีมที่ทำแต้มถึงเป้าหมายก่อน หรือคะแนนมากที่สุดตอนหมดเวลาจะเป็นฝ่ายชนะ
วิธีปลดล๊อค Frontlines ต้องผ่านเควส ซึ่งเป็นเควสของ GC เสียก่อน รับเควสได้ที่ที่ทำการของ GC ที่ตัวละครสังกัดอยู่
ชื่อ Duty | The Wolves' Den | Level / iLevel | - / - |
วิธีปลดล๊อค | เควส A Pup No Longer ที่ GC สังกัดของตัวละคร | ของตอบแทน | ? ? |
รายละเอียด :
|
ชื่อ Duty | Carteneau Flats: Borderland Ruins | Level / iLevel | 50 / 80 |
วิธีปลดล๊อค | เควส Like Civilized Men and Women ที่ GC สังกัดของตัวละคร | ของตอบแทน | Soldiery 40 Poeitics 20 |
รายละเอียด :
|
การทำอาวุธในตำนาน Zodiac Weapon
ถ้าไม่นับอาวุธที่ได้จาก CoB ก็อาจจะถือได้ว่า Zodiac Weapon เป็นอาวุธที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละสายอาชีพ วิธีทำอาวุธนั้นไม่ยาก แต่มีหลายขั้นตอน รวมถึงอาศัยเวลา ความอดทน และความขยัน อาวุธ Zodiac นั้นทำได้อาชีพละชิ้น สามารถทำได้ทุกอาชีพของตัวละคร เมื่อตรงเงื่อนไข ดังนั้น เราจะสามารถเป็นเจ้าของอาวุธ Zodiac ได้ทุกชิ้น (ถ้าขยันมากพอ)อันนี้เพิ่งเป็นแค่ Animus จ้า หนทางยังอีกยาวไกลเหลือเกิน T_T |
อาวุธ Zodiac มีขั้นตอนการเติบโตตามลำดับดังนี้
- อาวุธ Relic - Item Level 80 มีวิธีทำค่อนข้างง่ายและให้ค่า stat ที่ดี ควรหามาติดตัวไว้ใช้หลังจาก end game ใหม่ๆ
- อาวุธ Relic Zenith - Item Level 90 เป็นอาวุธที่จะเริ่มมีแสงสว่างออกมา เกิดจากการเอาอาวุธ Relic มาอัพเกรดด้วย Thavnairian Mist ซึ่งได้มาง่ายมาก ไม่ควรพลาดอาวุธขั้นนี้
- อาวุธ Atma - Item Level 100 อาวุธนี้เป็นการเริ่มต้น Zodiac Weapon อย่างแท้จริง ได้จากการเอาอาวุธ Zenith มาอัพเกรดด้วยหิน Atma 12 เม็ด แต่ละเม็ดสุ่มดร็อปจากการวิ่ง FATE ตามแมปที่กำหนด อาวุธขั้นนี้แสงจะหายไป
- อาวุธ Animus - Item Level 100 ได้จากการใช้อาวุธ Atma ทำภารกิจตามที่กำหนดในหนังสือสำหรับอัพเกรดอาวุธ ซึ่งแต่ละเล่มจะประกอบด้วย การลงดันเจี้ยน 3 แห่ง, เข้าร่วม FATE 3 อย่าง, ล่ามอนสเตอร์ 10 อย่าง อย่างละ 10 ตัว และทำ Levequest 3 เควส ในขั้นนี้อาวุธจะกลับมามีแสงให้ชื่นใจอีกครั้ง
- อาวุธ Novus - Item Level 110 ได้จากการอัพเกรดอาวุธ Animus ด้วย Sphere Scroll ที่ยัด materia จนเต็ม เป็นขั้นตอนที่ใช้เงินค่อนข้างมากหากไม่ผลิต materia ด้วยตนเอง ในขั้นนี้อาวุธจะยิ่งสว่างมากขึ้นไปอีก
- อาวุธ Nexus - Item Level 115 เกิดจากการเอาอาวุธ Novus ไปทำภารกิจต่างๆ เช่น Raid, Trial, Dungeon ฯลฯ จนสะสมพลังงานถึงขั้นเต็ม แล้วนำไปอัพเกรด อาวุธจะส่งแสงสว่างแทบจะระเบิดออกมาจากจอเลยทีเดียว
- ตัวละครเลเวล 50 และจบเควส Main Scenario Quest แล้ว (The Ultimate Weapon)
- ทำเควสของจ๊อบนั้น จนจบเควสสุดท้าย
- ทำเควสของคลาสนั้น จนจบเควสสุดท้าย
- ผ่านดันเจี้ยน The Aurum Vale หรือ Dzemael Darkhold แล้ว
- ผ่านดันเจี้ยน Amdapor Keep แล้ว
เควส A Relic Reborn รับได้จาก Gerolt ที่ North Shroud - Peacegarden - Hyrstmill (30-20)
รายละเอียดสำหรับซีรี่ส์ Zodiac Weapon จะตามมาในภายหลังครับ
The Hunt
เราจะได้รับคำสั่งจาก GC ให้ไปล่ามอนสเตอร์ตามใบสั่ง แล้วจะได้ของตอบแทนเป็นแต้ม Tomestones และ Allied Seals จำนวนมากน้อยตาม rank ของมอนสเตอร์ที่ล่าได้ วิธีนี้น่าจะเป็นวิธีเก็บแต้มที่ไวที่สุดแล้วในขณะนี้ แต่ต้องอาศัยเครือข่าย หูตาไว และคล่องตัวพอสมควร เพราะมอนสเตอร์ rank A - S ซึ่งให้ค่าตอบแทนดีๆนั้นเกิดขึ้นในตำแหน่งและเวลาที่สุ่ม และยังตายแทบจะทันทีหลังจากเกิดได้ไม่นานกลไกการให้ของตอบแทนของ The Hunt จะคล้ายๆกับ FATE คือ คิดตามปริมาณแดมเมจรวม / enmity รวม / ฮีลรวม ที่ทำได้ ดังนั้น ควรมีปาร์ตี้ในขณะ hunt ด้วยเพื่อค่าตอบแทนสูงสุด
ชนิดของมอนสเตอร์สำหรับ The Hunt
ตัวอย่างมอนสเตอร์ Rank B ที่แปะประกาศไว้ที่ GC สำหรับล่ารายสัปดาห์ |
- Regular Mark Bills เป็นการล่าแบบรายวัน โดยรับหมายล่าจากบอร์ดที่ที่ทำการ GC ซึ่งจะมอบหมายให้ไปล่ามอนสเตอร์ตามแมปทั่วไปจำนวนหนึ่ง รีเซททุกวัน
- Rank B หรือ Elite Mark Bills เป็นการล่าแบบรายสัปดาห์ รับหมายล่าจากบอร์ดที่ที่ทำการ GC เช่นเดียวกัน มอนสเตอร์ rank B นี้จะสุ่มตำแหน่งเกิดในแมปที่ระบุไว้ทุกๆ 5 วินาทีหลังจากถูกล่าไปครั้งล่าสุด สามารถล่าคนเดียว(พร้อมโชโคโบะ)ได้
- Rank A เป็นมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ ล่ายากกว่า Rank B มาก แต่ละแมปจะมีเวลาช่วงเวลาเกิดค่าหนึ่ง ซึ่งต้องอาศัยการติดตามที่ดี
- Rank S เป็นมอนสเตอร์ที่โหดกว่า Rank A และมีช่วงเวลาการเกิดที่นานกว่าด้วย แต่การล่าแต่ละครั้งก็ได้ค่าตอบแทนคุ้มค่าที่สุด
เว็บ FFXIVHUNT.com สำหรับดูและรายงานการเกิดและตายของมอนสเตอร์ใน The Hunt |
- Immortal Flames เควส Let the Hunt Begin (Immortal Flames)
รับที่ NPC ชื่อ Mimio Mio ตำแหน่ง Ul'dah - Steps of Nald (x8,y9) - The Order of the Twin Adderเควส Let the Hunt Begin (Twin Adder)
รับที่ NPC ชื่อ Scarlet ตำแหน่ง New Gridania (x9,y11) - Maelstorm เควส Let the Hunt Begin (Malestrom)
รับที่ NPC ชื่อ Trachraet ตำแหน่ง Limsa Lominsa Upper Decks (x12,y12)
เควสเนื้อเรื่องรอง
- เนื้อเรื่องของ Hildibrand
เริ่มต้นที่เควส The Rise and Fall of Gentlemen รับที่ Wymond ตำแหน่ง Ul'dah - Steps of Nald - Emerald Avenue (9-8) เควสซีรี่ส์ที่มีเรื่องราวตลกขบขันนี้ยังเป็นทางผ่านไปสู่บอส Gilgamesh และ Ultros & Typhon อีกด้วย - เนื้อเรื่อง Delivery Moogle
เริ่มต้นที่เควส Of Errant Epistles รับที่ Klynthota ตำแหน่ง Mor Dhona - North Silvertear (30,13) - เนื้อเรื่อง Wandering Minstrel
เริ่มต้นที่เควส Sing Me Another Song รับที่ Alys ตำแหน่ง Mor Dhona - Fogfens - The Seventh Heaven (21-8) เป็นทางผ่านไปสู่การสู้บอส Ultima Weapon Hard Mode คาดว่าจะเป็นทางผ่านไปสู่บอสซีรี่ส์ของจักรวรรดิ Garlean ตัวอื่นๆ ในอนาคต
สำหรับเนื้อหาคร่าวๆ ของ end-game content ที่น่ารู้ ก็มีประมาณนี้ครับ หากมีจุดผิดพลาดท้วงติงมาทางเพจใน facebook หรือคอมเม้นท์ด้านล่างได้เลยครับ รายละเอียดเชิงลึกจะตามมาเร็วๆนี้ครับ